Emma Watson บนปกนิตสาร Gracia UK พร้อมบทสัมภาษณ์แปลไทย
เมื่อเดือนกันยายน 2014 Emma Watson ยืนต่อหน้าผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติและวิงวอนให้เหล่าผู้ชาย "เริ่มต้นการปกป้อง" ในความเสมอภาคทางเพศ คำปราศรัยในการเปิดตัวโครงการ HeForShe ของเธอ กว่าหลายล้านคนที่เฝ้ามองเธอเปิดเผยความจริงที่ว่า เธอรู้สึกว่าเธอเคยมีรสนิยมทางเพศเมื่อตอนอายุ 14 เธอเคยเห็นเพื่อนๆ ผู้หญิงทิ้งการเล่นกีฬาตอนอายุ 15 "เพียงพอไม่อยากให้กล้ามขึ้น"
ในปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปิดตัวคลับหนังสือสตรีนิยม Our Shared Shelf และการทำงาน "ฑูตสันถวไมตรี" ที่อายุน้อยที่สุดของ UN เอ็มม่าได้เสริมสถานะความมั่นคงของเธอด้วยการเป็นหนึ่งในนักแสดงฮอลลีวู้ดที่มีความเป็นสตรีนิยมสูงสุด
แต่ในสัมภาษณ์พิเศษกับ Grazia เธอได้เปิดเผยว่า ครั้งหนึ่งเธอเคยหยุดตัวเธอเองให้เลิกต่อต้านการกีดกันทางเพศเพราะเธอกลัวมากเหลือเกินว่ามันจะ "ยาก"
"ฉันมีความกลัวขนาดใหญ่เมื่อหลายคนเริ่มเรียกฉันว่า Diva และก็ขวัญหายมากๆ เมื่อต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเอาใจทุกคนเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงได้" เธอกล่าว "และในบางจุด ความเจ็บปวดมาจากคำว่า Diva มันเป็นเหมือนกระสุนที่ทำร้ายฉันเพราะฉันกลัวมากที่ถูกเรียกว่าเป็นคนนิสัยเสียหรือยุ่งยาก หรือผู้คนพูดว่าดาราของโลกภาพยนตร์หรือชื่อเสียงเปลี่ยนฉัน"
เมื่อ Grazia ได้พบกับเอ็มม่าในห้องของโรงแรมย่านกลางกรุงลอนดอน เธอค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง ก็ไม่นานมานี้ นักแสดงหญิงอายุ 26 ยอมรับว่า เธอเพิ่งจะได้ยินเสียงของตัวเองระยะหลังๆ นี้เอง เห็นด้วยอย่างยิ่งแม้ว่าจะมีหลากหลายบทบาทบนจอ มันเป็นการเชื่อในบทบาทของเธอในการเป็น 'ฑูตสันถวไมตรี' ของ UN Women ที่ได้ดึงเธอห่างไกลจากการเป็น อย่างที่เธอกล่าว "เด็กหญิงจาก Harry Potter"
เธอฉลาด, ร่าเริงและก็น่าเอ็นดูอย่างที่เธอบอกเรานั่นแหละ "มันเกิดขึ้นเร็วๆ นี้เองสำหรับฉัน จริงๆ ฉันเหมือนแบบว่า 'ทำมันเลย!' พูดในสิ่งที่จำเป็นต้องพูด คนอื่นๆ จะเข้าใจแค่ว่า คุณไม่สามารถเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณต้องปล่อยให้การเข้าใจของตัวคุณเองมีน้ำหนักมากขึ้น"
คอมเม้นต์ของเธอคงไม่ต้องมีข้อสงสัยกับเพื่อนนักแสดงฮอลลีวู้ด, สตรีนิยม Jennifer Lawrence คนที่เขียนถึงไปเมื่อปีที่แล้วว่า เธอได้เริ่มต่อสู้กับช่องว่างระหว่างนักแสดงชายและหญิง "เพราะว่าเธอไม่ได้อยากดูเป็นคนนิสัยเสียหรือยุ่งยาก"
ผู้ชนะรางวัลออสก้าร์ กล่าวเพิ่มว่า "ในช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดี จนกระทั่งฉันเห็นเงินเดือนในอินเตอร์เน็ตและตระหนักถึงผู้ชายทุกๆ คนที่ฉันได้ทำงานด้วย แน่นอนว่าไม่ได้กังวลที่จะเป็นคนมากเรื่องหรือนิสัยเสีย"
ส่วนหนึ่งของเธอ เอ็มม่าเติบโตมากับความหลงไหลในสตรีนิยม เธอเพิ่งจะประกาศไปว่าเธอพักงาน 1 ปีเพื่อศึกษา, อ่านและติดตามความเคลื่อนไหวในความรู้ของเธอ ในขณะที่ยังจดจ่ออยู่กับ "การพัฒนาส่วนบุคคล" ของเธอเองด้วย
ฐานะปัจจุบันของเธอคือ? "สิ่งที่ทำให้คุณเป็นสตรีนิยม ไม่ใช่การพูดว่าคุณคือสตรีนิยม จริงๆ มันคือว่าคุณเลือกที่จะใช้ชีวิตยังไง สิ่งไหนที่คุณทำและการกระทำที่คุณใช้"
"สตรีนิยมมีความเป็นกริยามากกว่าการพรรณนา งั้นก็พยายามที่จะเปลี่ยนความคิดไปรอบๆ มันค่อนข้างเป็นสิ่งสำคัญ"
และให้ความสำคัญสูงสุดที่มีการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ว่าผู้หญิงจะถูกกำหนดจากสิ่งที่พวกเธอมีลักษณะเหมือน ซึ่งที่เธอโต้เถียงก็ยังคงเป็นปัจจัยใหญ่ในการปิดกั้นความเสมอภาคทางเพศ
"แน่นอนว่ามีเงื่อนไขหลักๆ ในสังคม ที่พวกเขายังคงพูดกล่าวมากมายกับผู้หญิงว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือลักษณะภายนอกและร่างกาย และเธอดูเป็นอย่างไร"
"นั่นเป็นคำพูดที่แข็งแกร่งมาก ฉันเป็นหนึ่งในคนที่โชคดีพอได้ไปโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ในบางครั้งฉันก็เคยรู้สึกโกรธเคืองเพราะว่าสิ่งที่ดูเหมือนสูงสุดเช่นสิ่งที่สำคัญก็เป็นแค่การมองของฉัน ฉันก็แค่เคยคิดว่า "ฉันจะรำคาญทำไม?"
"มันกำลังเปลี่ยน และฉันคิดว่าผู้หญิงกำลังเรียนรู้ที่จะมีค่าเพื่อสิ่งที่พวกเขาพูด, ทำและคิด สำหรับคนที่พวกเขาเป็น แต่ก็ยังมีคำพูดที่แข็งแกร่งพูดว่าสิ่งที่สำคัญจริงๆ ก็คือพวกเธอดูเป็นยังไงในชุดบิกินี่"
ก่อนที่จะมีประกาศพักงานของเธอ เอ็มม่าได้ถ่ายทำหนังเรื่องสุดท้าย The Colony ที่จะออกฉายในวันศุกร์นี้ เธอรับบทเป็น Lena หยิงสาวอายุน้อยแฟนของ Daniel ที่ถูกลักพาตัวไปโดยจอมเผด็จการ Augusto Pinochet ตำรวจลับในช่วงการทำรัฐประหารในปี 1973 ในชิลี
มันเป็นส่วนหนึ่ง เธอบอกว่า เธอถูกดึงดูดให้ต้องขอบคุณภาพยนตร์เรื่องนี้ในความผกผันของบรรทัดฐานทางเพศ "มันยากสำหรับฉันที่จะไม่มองผ่านในเลนส์สตรีนิยมและพยายาม และคิดในการเป็นตัวเทนของผู้หญิงทั่วๆ ไป"
"ฉันรู้สึกว่า มันมีบทบาทจริงๆ ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ ครั้งหนึ่งที่ผู้หญิงไม่ได้รอคอยควาามช่วยเหลือ แต่เธอเป็นคนไปช่วยเหลือ"
Diva เป็นคำที่ใช้อธิบายถึงผู้หญิงที่มีความสามารถ อันโดดเด่นในวงการภาพยนตร์, นักแสดงนำฝ่ายหญิง
ขอบคุณบทสัมภาษณ์จาก watsonuncensored
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น