NEW! บทสัมภาษณ์ระหว่าง Emma Watson และนักเขียน Valerie Hudson บน Teen Vogue.
__________________________________________
NEW! Emma Watson โพสต์ภาพล่าสุดลงบน Instagram ของเธอ คาดว่าจะเป็นภาพสำหรับการสัมภาษณ์ลงนิตยสาร Teen Vogue ครั้งนี้!
"ต้นเดือนที่แล้ว ในตอนที่ชีวิตของเราคนใดคนหนึ่งยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ฉันได้รับเกียรติได้ร่วมพูดคุยกับ Dr.Valerie Hudson เกี่ยวกับหนังสือของเธอ Sex and World Peace เราพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือของเธอ และตระหนักถึงวิธีที่เราได้รับการปฏิบัติต่อสตรีเฉกเช่นเราได้ปฏิบัติต่อโลกของเรา
ถ่ายโดยช่างภาพมากฝีมือ Mack Breeden"
__________________________________________
บทความต้นฉบับ Teen Vogue
บทสนทนาระหว่างนักแสดง นักเคลื่อนไหว Emma Watson และนักเขียน Valerie Hudson (วาเลรี่ ฮัดสัน) เจ้าของผลงาน Sex and World Peace เกี่ยวกับสิทธิสตรี คู่ครอง โครงการ #MeToo และอื่นๆ
มันอาจจะใช้เวลานานสำหรับ Emma Watson ที่จะกลายเป็นดาวดัง แต่นั่นเป็นเพียงแค่สิ่งที่นักแสดงนำจาก Little Women และ Harry Potter รู้สึกหลังจากได้ร่วมพูดคุยกับ Valerie Hudson อาจารย์สอนวิชารัฐศาสตร์ของมหาวิยาลัย Texas A&M และนักเขียนเจ้าของหนังสือ Sex and World Peace
ทั้งคู่ร่วมสนทนากันผ่านโทรศัพท์และพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือของวาเลรี่ ซึ่งเป็นหนังสือที่นักเขียน Gloria Steinem ให้กับเอ็มม่า และเอ็มม่าได้นำหนังสือเล่มนี้ขึ้น Highlight บน Instagram ของเธอเนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day) เอ็มม่าและวาเลรี่พูดคุยครอบคุมไปถึงพลังของความสุขในชีวิตโสดจนไปถึงการทำงานของเอ็มม่าร่วมกับ UN Women ในโครงการ #HeForShe ว่าทำไมเหล่าผู้ชายมักจะไม่ฟังเหล่าผู้หญิงนัก
นิตยสาร Teen Vogue ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์นี้ตั้งแต่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา และบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้คือสัมภาษณ์ที่นำมาแก้ไขใหม่เพื่อให้ได้อ่านง่ายได้ใจความ และชัดเจนมากยิ่งขึ้น
EW: นี่มันเจ๋งสุดๆเลย ฉันเป็นดาวดังหรอเนี่ย
VH: ฉันก็รู้สึกคล้ายๆกัน หนึ่งในลูกสาวของฉันกำลังอ่านหนังสือ Harry Potter อยู่ในตอนนี้ และทุกครั้งที่เธออ่านหนังสือแต่ละภาคจบ เราก็จะไปเปิดฉบับภาพยนตร์ดูกัน และแน่นอนเธอรู้ไหมว่า เธอน่ะเป็นฮีโร่ของพวกเขาเลยแหละ
EW: ว้าว ขอบคุณนะคะ คุณนี่มันเจ๋งเว่อร์ๆเลยนะ หนังสือของคุณทำหัวฉันแทบระเบิด ฉันคิดว่านั่นเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุดที่จะสามารถเปรียบได้ อะไรเป็นสิ่งกระตุ้นให้คุณเขียนหนังสือเล่มนี้?
VH: ตอนที่ฉันจบการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติ คุณสามารถเรียนหลักสูตรทั้งหมดและไม่เคยรู้เลยว่ามีผู้หญิงอยู่บนโลกนี้ คือมันมีผู้หญิงน้อยมากๆ ความคิดที่ว่าความมั่นคงของชาติอาจมีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้หญิง อาจะฟังดูเป็นเรื่องน่าขัน และมันก็น่าขันเอาซะมากๆ และฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นจนกระทั้งดวงตาของฉันเริ่มเปิดกว้าง และเริ่มยิงคำถาม และอ่านหนังสือที่อาจจะมีคำแนะนำดีๆ
มีสิ่งหนึ่งที่คุณจะหาคำตอบได้อย่างรวดเร็วก็คือตอนที่คุณพูดว่า 'ฉันคิดว่าความมั่นคงของชาติอาจจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้หญิง' และคนอื่นๆก็จะประมาณว่า 'โอ้ รู้อะไรไหม กลับมามาใหม่ตอนคุณมีข้อมูลก็แล้วกัน อย่ามาบอกพวกเราเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีกนะ' เมื่อไม่มีข้อมูลพวกเราก็ถูกบอกให้เลิกพูดในทันที และนั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องมีข้อมูลไงละ
EW: เอิ่ม.. ข้อมูลที่คุณได้รวบรวมมานั้นเป็นอะไรที่หัวใจแทบหยุดเต้น เช่นเดียวกับความจริงที่ว่า 'ความเสี่ยงสูงสุดในความยากจนของวัยชราถูกกำหนดโดยว่าเคยมีลูกหรือไม่' เมื่อคุณได้ยินว่าหากค่าแรงในการดูแลของผู้หญิงมีค่าถึงแม้จะเป็นค่าแรงขั้นต่ำมันก็จะคิดเป็น 40% ของการผลิตทั่วโลก มันยากที่จะได้ยินและยังคงไม่ไหวติง ไกลแค่ไหนที่คุณคิดว่าเรามาจากการได้รับค่าแรงขั้นต่ำหรือผลประโยชน์ประกันสังคมสำหรับแรงงานที่ดูแลฟรี?
VH: นั่นเป็นคำถามที่ยอดเยี่ยม หนึ่งในสิ่งที่ฉันเริ่มคิดว่าเมื่อเร็วๆ นี้ก็คือ ทุนนิยมที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงงานที่ให้ชีวิตหรือการดูแลทั้งหมดโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนอย่างสมบูรณ์อยู่ด้านหลังของผู้หญิงหรือไม่ และถ้าเป็นเช่นนั้นสิ่งที่พูดเกี่ยวกับความยั่งยืนของระบบทุนนิยม คนที่รักษาทุกคนให้มีชีวิตอยู่ให้คนรุ่นใหม่ดูแลผู้สูงอายุและคนป่วยไม่ได้รับเครดิตสำหรับสิ่งนี้
EW: คุณเขียนเกี่ยวกับกระบวนทัศน์ของ Goldberg และวิธีการประเมินการพูดคำเดียวกันได้รับการจัดอันดับสูงกว่ามาจากผู้ชาย เป็นไปได้ว่าทำไมไม่รู้ว่า Harry Potter นั่นเขียนโดย Joanne Rowling หากการส่งเสริมความสำเร็จของพวกเขาเองเป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ชาย แต่ผู้หญิงที่เน้นความสำเร็จของพวกเขาคือการห้าม เราจะลงสนามเป็นผู้เล่นได้มากขึ้นได้อย่างไร?
*ตอนนี้บทความยังแปลไม่สมบูรณ์ เดี๋ยวจะอัพเดทอีกทีนะคะ ขอบคุณคะ :)*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น